อายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า อยู่ได้กี่ปี?
ในยุคปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) นั้น ถือเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญอย่างหนึ่งซึ่งถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั่วโลก ตั้งแต่ในระดับของผู้คนทั่วไป แวดวงธุรกิจต่าง ๆ วงการวิชาการ ไปจนถึงระดับนโยบายภาครัฐ รวมถึงระหว่างประเทศด้วย นั่นเพราะการตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องพลังงานที่มีอยู่จำกัด หรือที่เรียกว่า Non-Renewable Energy ซึ่งก็คือพลังงานน้ำมัน ที่วันหนึ่งจะหมดไป ทำให้ผู้คนหลากหลายฝ่ายทั่วโลกพยายามที่จะคิดหาทางออกจากปัญหาการขาดแคลนพลังงานที่จะมาถึงนี้
ความคิดในการผันตัวออกจากการพึ่งพาพลังงานน้ำมันไปสู่พลังงานที่สะอาดและยั่งยืนกว่า จึงนำไปสู่การพูดคุยถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ทดแทนรถยนต์ทั่วไปที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งท้ายที่สุด การพูดคุยในเรื่องนี้ได้ทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ จนทุกวันนี้เราสามารถเห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งอยู่บนท้องถนนได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของผู้คนทั่วไปที่มีสถานะเป็นผู้บริโภค การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าถือว่ามีอุปสรรคอยู่พอสมควร นั่นเพราะความไม่แน่ใจในเรื่องความคุ้มค่าและอายุการใช้งาน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากภาพจำที่เห็นว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปนั้นมีอายุสั้น โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องแบตเตอรี่ ที่ในกรณีของรถยนต์ทั่วไปจะต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่อยู่ตลอด จึงอาจทำให้หลายคนมีความคิดว่ารถยนต์ไฟฟ้า มีอายุการใช้งานที่สั้น เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าปกติอื่น ๆ ทางเราจึงอยากชวนมาเข้าใจถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้กัน
ก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจว่ารถยนต์ หรือยานยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาในช่วงไม่กี่สิบปีให้หลังนี้ ในขณะที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างยาวนานมากกว่าร้อยปี อีกทั้งยังมีการปรับปรุงพัฒนาขีดความสามารถต่าง ๆ ให้ดีขึ้นอยู่ตลอด เรียกได้ว่าทุกวันนี้เครื่องยนต์สันดาปมีการพัฒนาจนเกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว ในขณะที่เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ายังคงอยู่ในช่วงแรกเริ่มเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการพัฒนาขีดความสามารถของรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอจวบจนปัจจุบัน มีการทดลอง ทดสอบ และตรวจสอบ จนสามารถผลิตและนำรถยนต์ และยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ได้จริง และเพื่อให้สามารถแข่งขันได้กับรถยนต์ทั่วไป ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น รถยนต์ไฟฟ้าจึงมีความจำเป็นที่จะพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ให้ทัดเทียมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า
สถาบันทดลองพลังงานหมุนเวียนแห่งชาติ (National Renewable Energy Laboratory; NREL) ของกระทรวงพลังงาน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยและสรุปเป็นข้อเสนอแนะถึงผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าว่า “เพื่อแข่งขันกับรถยนต์ธรรมดา รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (Electric-Driven Vehicles; EDVs) และแบตเตอรี่ของรถจะต้องมีสมรรถนะใช้งานได้ 10 ถึง 15 ปี ในสภาพอากาศและในวัฏจักรการใช้ที่แตกต่างออกไป”
โดยอีกหนึ่งมาตรฐานที่ทางผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าต้องยึดถือ โดยเฉพาะผู้ผลิตสัญชาติอเมริกา นั่นก็คือ การรับประกันแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นผลมาจากกฎหมายของรัฐบาลกลางของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ กำหนดให้แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องได้รับการรับประกันคุณภาพให้มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 8-10 ปี หรือเทียบเท่าระยะทาง 100,000-150,000 ไมล์ (ประมาณ 160,000-240,000 กิโลเมตร) ซึ่งแม้ประเทศอื่นอาจจะไม่ได้มีการออกกฎหมายเช่นเดียวกันนี้ แต่ผลของกฎหมายนี้ก็จะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานของผู้ผลิตอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
ตามมาตรฐานของฝั่งผู้ผลิต เราอาจจะอุ่นใจได้ว่าโดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่ำคือ 10 ปีโดยประมาณ ซึ่งแน่นอนว่าในความเป็นจริงตัวเลขก็อาจจะมีความแตกต่างไปจากนี้ได้ จากปัจจัยต่าง ๆ ของผู้ใช้เอง โดย 3 ปัจจัยหลักที่ส่งผลกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าก็คือ ความร้อน พฤติกรรมการชาร์จ และพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยนี้นั้นมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน อย่างความร้อนก็อาจเกิดจากการใช้งานที่หนักเกินไป หรือการชาร์จที่ปล่อยให้แบตเตอรี่หมดบ่อยครั้ง (deep discharges) รวมทั้งการเลี้ยงให้เต็มอยู่ตลอดเวลาเกินไป (Overcharging) ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้สามารถเรียนรู้ให้ไม่เกิดผลเสียได้หากผู้ใช้ทำความเข้าใจและปรับพฤติกรรมให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม คงไม่เกินเลยนักถ้าจะกล่าวว่าอายุการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันก็อยู่ในจุดที่เหมาะสมและสะท้อนการใช้งานของคนทั่วไปได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในเมือง และมีพฤติกรรมและเส้นทางการใช้งานรถยนต์แบบเป็นกิจวัตร (Routine) โดยเมื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าที่รถยนต์ไฟฟ้า จะช่วยให้เราไม่ต้องเสียค่าพลังงานเชื้อเพลิง อีกทั้งค่าบริการจากการบำรุงรักษาดูแลเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป
รถยนต์ไฟฟ้า นั้นถือเป็นพัฒนาการในอนาคตที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเราคิดถึงการลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิง และความคุ้มค่าและเหมาะสมในการใช้งานของคนเมือง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าจะยิ่งมีมากขึ้น อีกทั้งเมื่อเราพิจารณาว่าเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้านั้นยังคงอยู่ในจุดเริ่มต้นของการพัฒนา ในอนาคต เราอาจจะเห็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะและอายุการใช้งานที่ทัดเทียม หรือมากกว่ารถยนต์ทั่วไปในทุกขีดความสามารถเลยก็เป็นไปได้
และที่ BYD ขอให้ทุกคนมั่นใจใน Blade Battery นวัตกรรมแบตเตอรี่เอกสิทธิ์เฉพาะ BYD เพราะนอกจากประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังมาพร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อให้คุณไม่ต้องเป็นกังวลกับการเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ ให้รำคาญใจ
มาเป็นครอบครัว BYD ด้วยกัน สามารถเข้าชมรถจริง และ Test Drive ได้ทุกวัน ได้ที่โชว์รูม BYD Metromobile ทั้ง 2 สาขา สาขาพระราม 3 และ สาขาตลิ่งชัน
เพียงลงทะเบียนนัดหมายที่ >> https://bydmetromobile.com/form-test-drive/
ขอบคุณข้อมูลจาก :