รวมทุกเรื่องควรรู้เกี่ยวกับยางรถ EV
เมื่อพูดถึงการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า คนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับ เครื่องยนต์, สมรรถนะ, อัตราการประหยัดพลังงาน และงบประมาณในการซื้อรถยนต์เป็นหลัก แต่จะมีน้อยคนนักที่ให้ความสนใจกับอะไหล่ชิ้นสำคัญอย่าง ยางรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเข้าใจว่า ยางรถยนต์ทั่วไปก็สามารถใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้เช่นกัน
ยางรถ EV ต่างจากยางรถยนต์ทั่วไปอย่างไร?
แม้จะเป็นยางที่ช่วยขับเคลื่อนรถยนต์เหมือนกัน แต่เมื่อมีการใช้งานกับรถยนต์คนละประเภท แน่นอนว่ายางรถ EV และยางรถยนต์ทั่วไป หรือ ยางรถยนต์สันดาปย่อมมีความแตกต่างกันเป็นธรรมดา โดยพื้นฐานแล้ว ยางสำหรับรถ EV จะมีความแตกต่างจากยางรถยนต์ทั่วไป 5 ด้าน ดังนี้
1. ยางรถยนต์ EV ทนทานต่อแรงบิดมากกว่า
รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมกับอัตราเร่งที่เร็วแรง ทั้งยังมีกำลังส่งและแรงบิดที่สูงกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไป แน่นอนว่าแรงบิดที่สูงย่อมมาพร้อมกับการสึกหรอที่รวดเร็ว ดังนั้น ยางรถ EV จึงต้องมีความหนาเป็นพิเศษ ทั้งยังต้องมีการออกแบบตัวยาง ดอกยาง ตลอดจนมีการเลือกใช้สารประกอบยางพิเศษ เพื่อรองรับการใช้งานโดยเฉพาะ
2. ยางรถยนต์ EV มีเสียงรบกวนน้อยกว่า
รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมกับประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบสงบ ดังนั้น เพื่อรักษาความเงียบในการขับขี่นี้ ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จึงมีการออกแบบดอกยางพิเศษ ตลอดจนมีการนำสารประกอบดูดซับเสียงมาใช้กับตัวยาง หรือ ผู้ผลิตบางยี่ห้อยังมีการนำโฟมซับเสียงเข้ามาใช้กับตัวยางเพื่อช่วยให้ขับขี่ได้นุ่มและเงียบขึ้นอีกด้วย
3. ยางรถยนต์ EV ยึดเกาะถนนได้ดีกว่า
เนื่องจากมีอัตราเร่งที่เร็วแรงและแรงบิดที่สูงมาก ไม่ว่าจะบังคับรถยนต์ไฟฟ้าไปทางไหนก็จะมีแรงกระทำที่มากกว่ารถยนต์สันดาป ด้วยเหตุนี้ ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจึงต้องรองรับแรงเสียดทานที่มากขึ้น ทั้งยังต้องสามารถยึดเกาะกับถนนได้มากยางรถยนต์ทั่วไป
นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังมีการใช้ระบบ Regenerative Braking ที่จะหน่วงรถยนต์ให้ช้าลงเมื่อมีการชะลอความเร็ว ดังนั้น ยางรถ EV จึงต้องสามารถทำงานร่วมกับระบบเบรกดังกล่าวได้และมีการยึดเกาะถนนที่ดีด้วยเช่นกัน
4. ยางรถยนต์ EV มีแรงต้านการหมุนต่ำ ใช้พลังงานน้อย วิ่งได้ไกลขึ้น
การขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งเร็วแรง แรงบิดสูง และมีน้ำหนักมาก ทำให้การแรงต้านทานการหมุนที่สูง ส่งผลให้ต้องใช้เชื้อเพลิง หรือ พลังงานที่มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ยางรถ EV ส่วนใหญ่จึงมีแรงต้านการหมุนที่ต่ำ ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ส่งผลให้ใช้งานได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น ทั้งยังช่วยลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น
โดยการพิจารณาแรงต้านการหมุนของยางสามารถดูได้จาก EU Label ตั้งแต่เกรด A – G ที่ติดอยู่กับตัวยาง ซึ่งหากเป็นเกรด A ก็แปลว่ามีแรงต้านทานการหมุนต่ำที่สุดนั่นเอง
5. ยางรถยนต์ EV รองรับน้ำหนักรถยนต์ได้เป็นพิเศษ
ยางรถ EV สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่ายางรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากต้องรองรับน้ำหนักของแบตเตอรี่สำรองของรถยนต์ โดยการรับน้ำหนักของยางรถไฟฟ้านี้สามารถดูได้จากค่า Load Index หรือ ดัชนีรับน้ำหนักของยางได้
จะเห็นได้ว่า ยางรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นอีกหนึ่งอะไหล่ชิ้นสำคัญที่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าควรให้ความสำคัญไม่แพ้กับส่วนอื่น ๆ เลยทีเดียว ไม่เพียงแต่จะหมั่นดูแลรักษายางรถยนต์ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการใช้งานที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่เท่านั้น การเลือกรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพเยี่ยมก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน
ให้ BYD ดูแลคุณทุกเส้นทางอย่างมีสไตล์ เรามาเป็นครอบครัว BYD ด้วยกันนะครับ สัมผัสรถจริง และทดลองขับได้ที่โชว์รูม BYD Metromobile ทั้ง 3 สาขา สาขาพระราม 3 สาขาตลิ่งชัน และสาขาอ่อนนุช
เพียงลงทะเบียนนัดหมายที่ >> https://bydmetromobile.com/form-test-drive/
BYD BYD รถยนต์ไฟฟ้า ev car บีวายดี ยางรถ EV รถ EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รถไฟฟ้า รถไฟฟ้า ev