รถ EV

ร้อนนี้ต้องรอด! 5 วิธีดูแลรักษารถ EV เมื่อใช้งานในสภาพอากาศร้อน

ร้อนนี้ต้องรอด! 5 วิธีดูแลรักษารถ EV เมื่อใช้งานในสภาพอากาศร้อน

เพิ่งเข้าหน้าร้อน แต่หลายคนอาจอยากเจอฝนแล้ว อุณหภูมิความร้อนและแดดจ้า ที่ทุกคนต้องเผชิญทุกวันในช่วงนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อ “คน” เพียงเท่านั้น แต่ “รถยนต์” คู่กายก็อาจทนไม่ไหวเหมือนกัน ยิ่งความร้อนที่มาจากแสงแดด ส่งผลเสียกับรถที่รักได้ทั้งภายใน และภายนอก และหากจอดรถกลางแดดเป็นเวลานาน ความร้อนจะสะสมภายในรถและก่อให้เกิดปัญหามากมาย คนรักรถจึงต้องหาวิธีดูแลเป็นพิเศษในช่วง

การใช้รถ EV ในสภาพอากาอย่างร้อนประเทศไทยนั้น ก็อาจจะต้องทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลรักษาในเรื่องของการใช้งานและการชาร์จ เพื่อถนอมแบตเตอรี่และสามารถใช้รถได้ยาวนานมากขึ้น เรามาชมกันว่าข้อแนะนำในการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อใช้งานในสภาพอากาศร้อนนั้นมีอะไรบ้าง

5 วิธีการยืดอายุการใช้งานรถ EV ในช่วงหน้าร้อน

1. จอดรถในที่ร่ม

วิธีที่ง่าย และสำคัญที่สุด คือการหลีกเลี่ยงการจอดรถในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง ให้เลือกจอดรถในที่ร่มแทน ไม่ว่าจะอยู่ใต้ต้นไม้ โรงรถ หรือที่ใดก็ตาม ตราบใดที่รถยนต์ไฟฟ้าของคุณไม่โดนแดดเป็นเวลานาน จะช่วยทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ร้อนจนเกินไป และจะช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ตามไปด้วย เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าหากจอดรถในที่ร่ม จะทำให้ลดการใช้พลังงานที่ทำให้รถเย็นลง

2. ชาร์จเพียง 80%

ให้การชาร์จอยู่ระหว่าง 20%-80% เป็นระยะมาตรฐานรักษาคุณภาพแบตเตอรี่ที่ดี เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือ ยิ่งชาร์จนาน แบตเตอรี่ก็ยิ่งร้อนขึ้น และถ้าหากไปรวมกับสภาพอากาศที่มีแดดจัด ก็สามารถทำให้เกิดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ที่เร็วขึ้น

แต่ไม่ใช่ว่าจะหลีกเลี่ยงการชาร์จ 100% ไปเลย แนะนำว่าควรชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย AC Charge และ DC Charge ให้เต็ม 100% อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้ระบบทำการปรับสมดุลแรงดันภายใน และทำให้เซลล์ทุก ๆ โมดูลได้มีการชาร์จประจุเข้าไปด้วย ถ้าหากบางโมดูลในช่วง 80-100% ไม่ได้มีการอัดไฟในระยะเวลานาน ๆ อาจจะส่งผลให้เสื่อมสภาพและไม่สามารถเก็บประจุได้

3. ใช้เครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น

ไม่ควรปรับระดับความเย็นของแอร์สูงสุดแบบกระทันหัน ถ้าหากภายในรถร้อนมาก แนะนำให้สตาร์ตรถและเปิดแอร์ด้วยระดับเริ่มต้นก่อน เพื่อควบคุมและรักษาอุณหภูมิภายในรถล่วงหน้าก่อนที่เราจะเข้าไป

รวมถึงเวลาที่เสียบชาร์จรถอยู่ ก็ควรเปิดแอร์ก่อนถอดสายชาร์จ ถ้าหากเราถอดสายชาร์จแล้วเปิดแอร์ทีหลัง พลังงานในแบตเตอรี่จะลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากแอร์ใช้พลังงานที่เพิ่งชาร์จไป ส่งผลให้ระยะทางในการเดินทางน้อยลงด้วย

4. ตรวจสอบแรงดันลมยางเสมอ

ไม่ควรเติมลมยางมากเกินไป เนื่องจากเมื่อความร้อนสูงจะทำให้ยางขยายตัว  ส่งผลให้ลดระยะทางการวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นควรตรวจสอบแรงดันลมยางสม่ำเสมอและปรับลมยางตามควาสมจำเป็น สามารถตรวจสอบค่าแรงดันลมยางที่แนะนำได้ในคู่มือ หน้าจอในรถ หรือข้างประตูคนขับ เพื่อเติมลมยางด้วยค่าที่ถูกต้อง เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่โดยรวมได้

5. หลีกเลี่ยงการชาร์จเร็ว (DC Charging) ในอากาศร้อน

ความร้อนหรืออุณหภูมิสูงส่งผลต่อความเร็วในการชาร์จ หากเราไม่ได้เดินทางไกลหรือไม่จำเป็นต้องชาร์จระหว่างทาง อาจจะหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็วแบบ DC ควรชาร์จ AC จากที่บ้าน, สำนักงาน หรือหัวชาร์จ AC อื่น ๆ

แต่ในกรณีที่เราต้องเดินทางไกล จำเป็นจะต้องเข้าสถานีชาร์จเร็ว DC แบบเร่งด่วน ก็ควรจะชาร์จให้ถึงประมาณ 80% ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที และควรเผื่อระดับแบตเตอรี่ไปถึงอีกจุดประมาณ 10-20%

รู้จักทริคดูแลรถยนต์ไฟฟ้าคู่กายในช่วงหน้าร้อนกันไปแล้ว อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันคืออากาศร้อนจัดเช่นนี้ ขับรถอย่าหัวร้อนตามอากาศนะครับทุกคน

เรามาเป็นครอบครัว BYD ด้วยกันนะครับ  สัมผัสรถจริง และทดลองขับได้ที่โชว์รูม BYD Metromobile ทั้ง 3 สาขา สาขาพระราม 3  สาขาตลิ่งชัน และสาขาอ่อนนุช

เพียงลงทะเบียนนัดหมายที่ >> https://bydmetromobile.com/form-test-drive/

ขอบคุณข้อมูลจาก >>  https://ev.iphonemod.net/how-to-keep-ev-car-running-in-high-temperature/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน

  • คุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึก